สิ่งที่ต้องรู้ก่อนใช้งาน Digital Agency
เพื่อสร้างแบรนด์ โปรโมทสินค้าและบริการ สร้างยอดขายให้กับธุรกิจในปัจจุบันที่ลูกค้าและผู้บริโภคมีแนวโน้มในการเข้าถึงสื่อดิจิทัลมากขึ้น หลายองค์กรธุรกิจจึงมีแผนการใช้หรือเลือกใช้ Digital Agency เพื่อทำการตลาดออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
อย่างไรก็ตาม การใช้ Digital Agency มีข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวังหลายอย่าง จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนเคยได้ใช้บริการ Digital Agency ลองมาดูกันว่าเป็นยังไงบ้าง
ข้อดีของการใช้ Digital Agency
1. ไม่ต้องเสียเวลามาบริการจัดการเครื่องมือการตลาดออนไลน์ Digital Marketing ด้วยตัวเอง องค์กรธุรกิจที่ไม่มีทีมงานดิจิทัล หรือมีทีมงานดิจิทัลจำนวนน้อย แต่ต้องบริการจัดการเครื่องมือดิจิทัลหลาย ๆ อย่าง การใช้ Digital Agency จะช่วยประหยัดเวลาในการทำงานได้อย่างมาก
2. ช่วยเติมเต็มจุดด้อยของทีมงานดิจิทัลในองค์กรที่อาจจะมีความเชี่ยวชาญไม่ครอบคลุมทุกเครื่องมือ การที่องค์กรธุรกิจจะสามารถหาทีมงานดิจิทัลที่มีความรู้และทักษะครอบคลุมทุก ๆ เครื่องมือดิจิทัลอาจจะเป็นเรื่องยาก การใช้ Digital Agency ในส่วนที่จำเป็นสำหรับธุรกิจและเป็นส่วนที่ทีมงานอาจจะไม่ชำนาญเพียงพอ ก็สามารถช่วยให้ธุรกิจมีผลลัพธ์ดีได้
3. ช่วยในการชำระเงินและบริหารจัดการงบประมาณในการทำโฆษณา เนื่องจากบางองค์กรธุรกิจไม่สามารถชำระค่าโฆษณาด้วยบัตรเครดิตขององค์กรได้ อาจจะด้วยเพราะกฏระเบียบภายในบริษัท การใช้ Digital Agency จึงอาจเป็นทางออกที่สามารถแก้ปัญหาในจุดนี้ได้
ข้อเสียของการใช้ Digital Agency
1. เสียเงิน แน่นอนว่าการใช้ Digital Agency จำเป็นต้องเสียเงินค่าสำหรับค่าบริการ สำหรับค่าบริการก็จะขึ้นอยู่กับขอบเขตการใช้บริการเอเจนซี่แต่ละราย ซึ่งค่าบริการอาจจะเริ่มตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักสิบล้าน สำหรับองค์กรธุรกิจที่ใช้ Digital Agency เพื่อซื้อโฆษณา แน่นอนว่านอกเหนือจากค่าโฆษณาที่เราต้องจ่ายจริง ๆ ก็ต้องเสียค่าบริการ (Agency Fee) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละเอเจนซี่ว่าจะคิดค่าบริการอย่างไร บางเอเจนซี่อาจจะคิดเป็นเปอเซ็นต์ของงบประมาณโฆษณาแต่ละเดือน หรือบางเอเจนซี่อาจจะคิดเป็นค่าบริการรายเดือนแบบคงที่
2. การขาดความรู้ความเข้าใจในธุรกิจ เนื่องจาก Digital Agency อาจจะให้บริการธุรกิจหลากหลายประเภท ไม่ได้อยู่ในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งตลอดเวลา จึงอาจจะทำให้ Digital Agency ไม่มีความรู้ความเข้าใจในแต่ละธุรกิจเพียงพอ โดยเฉพาะพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อ พฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการของแต่ละธุรกิจ รวมไปถึงจุดขาย จุดเด่น คุณสมบัติของสินค้าและบริการของแต่ละธุรกิจ
3. ใช้เวลาในการแก้ไขหรือพัฒนาแคมเปญหรือ content นาน เนื่องจาก Digital Agency ไม่ได้ให้บริการลูกค้าเพียงรายเดียว จึงต้องใช้เวลาในการบริการลูกค้าหลาย ๆ เจ้า จึงทำให้การแก้ไขแคมเปญหรือ Content ใช้เวลานาน บางจุดใช้เวลาแก้ 5 นาที แต่เอเจนซี่ใช้เวลา 2 วัน และยิ่งหากการสื่อสารที่เจ้าใจไม่ตรงกัน อาจส่งผลให้แก้ไขงานกันไม่ตรงจุด เสียเวลาเพิ่มไปอีก
4. ติดตามผลลัพธ์จากการทำแคมเปญหรือการใช้บริการได้ยาก เพราะปรกติ Digital Agency มักจะส่งรายงานผลลัพธ์การทำแคมเปญโฆษณาหรือการให้บริการอื่น ๆ เป็นรายครึ่งเดือน รายเดือน หรือเมื่อสิ้นสุดแคมเปญ ซึ่งหากเป็นแคมเปญระยะยาว กว่าจะเห็นผลลัพธ์ก็อาจจะทำให้เราไม่สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรได้ หรือปรับเปลี่ยนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าได้ช้าเกินไป
5. ข้อมูลรั่วไหล Digital Agency บางรายให้บริการลูกค้าในธุรกิจเดียวกัน ขายสินค้าและบริการเดียวกันมากกว่า 1 ธุรกิจ จึงมีความเสี่ยงมากที่เอเจนซี่จะใช้ข้อมูลของธุรกิจหนึ่งเพื่อมาอ้างอิงหรือใช้กับอีกธุรกิจหนึ่ง เช่น การใช้ keyword, bidding, target เดียวกันเพื่อทำโฆษณาให้กับแต่ละบริษัทในธุรกิจเดียวกัน
ข้อควรระวังในการใช้บริการ Digital Agency
1. การตกลงกันเรื่องผลลัพธ์จากการทำโฆษณาหรือการใช้บริการ ก่อนที่จะใช้บริการ Digital Agency องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องมีความชัดเจนเรื่องเป้าหมายและผลลัพธ์จากการทำแคมเปญหรือโฆษณา และต้องพูดคุยกับ Digital Agency ให้ชัดเจน เพื่อให้ Digital Agency วางแผนและกลยุทธ์ในการทำแคมเปญโฆษณาให้บรรลุเป้าหมายที่องค์กรธุรกิจต้องการให้ได้ สำหรับพูดคุยกับเอเจนซี่เรื่องผลลัพธ์ให้เข้าใจกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น องค์กรธุรกิจต้อง ทำความเข้าใจค่าชี้วัดต่าง ๆ จากการทำแคมเปญหรือทำการตลาดออนไลน์ ให้ดี เพื่อให้สามารถติดตามผลลัพธ์จากการทำการตลาดออนไลน์จากเอเจนซี่ได้ดียิ่งขึ้น
2. ต้องตรวจสอบผลลัพธ์จากการทำแคมเปญหรือการใช้บริการอื่น ๆ จากเอเจนซี่เสมอ องค์กรธุรกิจที่ใช้บริการ Digital Agency ควรต้องตรวจสอบผลลัพธ์จากการทำแคมเปญหรือการให้บริการจากเอเจนซี่อยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงแรก ๆ ของการทำแคมเปญโฆษณา เพื่อให้สามารถปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนาประสิทธิภาพของการทำแคมเปญโฆษณาได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งโดยปรกติ Digital Agency มักจะไม่ให้องค์กรธุรกิจเข้าถึงเครื่องมือการทำโฆษณาและเครื่องมือวัดผล ดังนั้น หากองค์กรธุรกิจต้องคุยกับ Digital Agency ว่าจะมีเครื่องมืออะไรที่ทำให้เราสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้บ่อย ๆ หรือตลอดเวลาที่ต้องการ