การใช้ SEO และ SEM เพื่อการตลาดออนไลน์
PDMCoach • July 2, 2018
มีหลายครั้งที่ผู้เขียนถูกถามว่า SEO/SEM คืออะไร?? ใช้ยังไง?? แบบไหนดีกว่า??
ซึ่งหากมีการศึกษาข้อมูลจากหลาย ๆ ช่องทาง ก็จะพบว่าทั้ง SEO และ SEM ต่างมีจุดเด่น จุดด้อย รวมทั้งความยาก-ง่ายในการบริหารจัดการแตกต่างกันอย่างมาก แม้ว่าผลลัพธ์ของทั้ง 2 เครื่องมือจะปรากฏอยู่ในที่เดียวกันก็ตาม ซึ่งผู้เขียนขออธิบายทีละเครื่องมือดังนี้
1. SEO (Search Engine Optimization)
SEO (Search Engine Optimization)
คือ หน้าเว็บไซต์ที่ Search Engine ได้คัดกรองมาแสดงผลตามคำค้นหา (Search Term) ที่ผู้ค้นหาเลือกใช้ โดยผลลัพธ์นั้นไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ลงโฆษณา พูดง่าย ๆ คือ หน้าเว็บที่ติดอันดับบน Search Engine แบบไม่เสียเงินนั่นเอง สำหรับนักการตลาดออนไลน์ บอกได้เลยว่ามันล้ำค่ามาก แต่ก็ทำได้ยากเช่นกัน เพราะต้องทำเว็บไซต์ให้เหมาะสมตามคุณสมบัติที่ Search Engine ชอบ และต้องมีการลิงค์จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือเข้ามาที่เว็บไซต์เรา จึงจะถือว่าหน้าเว็บนั้นมันใช่สำหรับ Search Engine และเลือกมาติดอันดับดี ๆ ซึ่ง SEO มีข้อดีและข้อเสียดังนี้
ข้อดีหลัก ๆ ของ SEO
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
- ไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาให้ติดอันดับดี ๆ
- ช่วยส่งเสริมะุรกิจในระยะยาวได้ดีที่สุด
ข้อเสียหลัก ๆ ของ SEO
- ใช้ระยะเวลานาน
- ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและความพยายามอย่างมากในการทำเว็บไซต์ให้มีคุณสมบัติที่ Search Engine ชอบ ซึ่งบางส่วนจะเป็นงานเกี่ยวกับ Coding ต่าง ๆ
- ต้องทำกลยุทธ์การสร้างลิงค์ (Link Building) ที่น่าเชื่อถือให้ได้มากที่สุด
สรุปคือ ถ้าต้องการทำ SEO ต้องลงแรงในเรื่องของการพัฒนาเว็บไซต์ การสร้าง content ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้ Backlink ที่มีคุณภาพ และถ้าทำได้ ก็จะทำให้ธุรกิจดูมีหน้ามีตา เป็นเสือนอนกินอยู่ได้ยาว ๆ โดยที่ไม่ต้องโฆษณาให้เปลืองเงิน
2. SEM (Search Engine Marketing)
2. SEM (Search Engine Marketing)
อาจจะเรียกว่า PPC หรือ Paid Search คือการทำโฆษณาบน Search Engine ผลการค้นหาจะปรากฏอยู่ด้านบนหรือใต้ผลการค้นหา SEO การทำ SEM สามารถทำได้ภายในระยะเวลาสั้น แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาเรื่อง Keywords ให้ดี และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการทำโฆษณาบน Search Engine
ด้วย เพราะหากไม่เชี่ยวชาญพอ โอกาสขาดทุนค่าโฆษณาก็มีสูง การทำ SEM มีข้อดีข่้อเสีย ดังนี้
ข้อดีหลัก ๆ ของ
SEM/PPC
- เห็นผลลัพธ์บน Search Engine อย่างรวดเร็ว
- ติดอันดับดี ๆ บน Search Engine ได้ง่ายกว่า
ข้อเสียหลัก ๆ ของ SEM/PPC
- ต้องเสียค่าโฆษณา
- ผู้บริโภคจะมองว่าเป็นการโฆษณาที่อาจจะไม่น่าเชื่อถือ
- ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางใน การบริหารจัดการระบบ การทำโฆษณา SEM/PPC
สรุปคือ ถ้าต้อง การทำ SEM
(PPC หรือ Paid Search)
จำเป็นต้องมีเงินทุนและความรู้ในการบริหารจัดการระบบโฆษณาของ Search Engine ซึ่งระบบการทำโฆษณาแบบ SEM ที่นิยมใช้คือ Google Ads (Google Adwords) แบบ Search
เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุดต่อธุรกิจ ซึ่งหากธุรกิจต้องการโปรโมทบน Search Engine ให้คนรู้จักได้อย่างรวดเร็ว วิธีนี้คืออีกช่องทางหนึ่งที่ใช่สำหรับธุรกิจ
เมื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของทั้ง SEO/SEM แล้ว ผู้เขียนมีข้อแนะนำสำหรับการทำ SEO/SEM เพิ่มเติม ดังนี้
- เลือกใช้ SEO/SEM ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ถ้าต้องการโฆษณาระยะสั้น ๆ มีระยะเวลาจำกัด SEM จะเหมาะกว่า และควรใช้ SEM ถ้าไม่สามารถรอให้ SEO สร้างผลลัพธ์ที่ดีได้
- ทั้ง SEO/SEM ควรต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ วางแผน และกลยุทธ์เรื่อง Keywords ให้เป๊ะที่สุด เพราะทั้งสองเครื่องมือมีสิ่งเดียวกันที่เป็นหัวใจสำคัญ นั่นคือ Keywords
- ควรทำหน้าเว็บไซต์แต่ละหน้าให้สอดคล้องกับคุณสมบัติที่ Search Engine ชอบ เช่น ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บต้องรวดเร็วทันใจ content และ tag ต่าง ๆ ต้องมี keyword แบบที่ทำให้คนอ่านแล้วอยากซื้อ อยากได้ อยากใช้ เป็นต้น
- การทำ SEO/SEM จำเป็นต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งปัจจุบันมี คอร์สอบรม SEM และ SEO มากมายให้เลือกเรียนกัน