Responsive Display Ad. ฟังค์ชั่นใหม่ในการสร้างโฆษณา Google Ads - Display (GDN) ให้ง่ายขึ้น
เริ่มต้นปีใหม่มาหมาด ๆ ไม่ถึงเดือน Google Ads ก็มีฟังค์ชั่นใหม่ ๆ ในการทำโฆษณามาให้เล่นกันอีกแล้ว คราวนี้เป็นการอัพเดทลูกเล่นใหม่ของการทำโฆษณา Google Ads - Display หรือ GDN ที่มีการพัฒนารูปแบบการสร้างโฆษณาแบบอัตโนมัติในระบบการสร้างโฆษณาเอง จากเดิมใข้ Responsive Ad. ธรรมดา กลายเป็น Responsive Display Ad.
ในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Responsive Display Ad. ของ Google Ads - Display กันให้มากขึ้น
Responsive Display Ad. ของ Google Ads คืออะไร?
Responsive Display Ad. คือเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานโฆษณาในรูปแบบ Display ของ Google Ads ซึ่งรูปแบบของโฆษณา Display จะเป็นคล้าย ๆ แบนเนอร์ที่อยู่บนพื้นที่ต่าง ๆ บนเว็บไซต์ที่เป็น Display Network ของ Google โดยชิ้นงานโฆษณาที่สร้างด้วย Responsive Display Ad. จะสามารถปรับเปลี่ยนขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ต่าง ๆ ที่รองรับโฆษณา Display Network ของ Google ได้โดยอัตโนมัติ
Responsive Display Ad. ของ Google Ads มีความพิเศษอย่างไร?
Responsive Display Ad. ของ Google Ads ได้พัฒนามาจาก Responsive Ad. ของ โฆษณา Display Ad. แบบเดิม โดย Responsive Display Ad. รูปแบบใหม่สามารถสร้าง Headline ได้สูงสุด 5 แบบ และคำอธิบายของสินค้าและบริการที่โฆษณา (Description) ได้ถึง 5 แบบเช่นกัน นอกจากนั้นแล้ว Responsive Display Ad. ยังสามารถใช้ภาพในการทำโฆษณา 1 ชิ้นได้สูงสุดถึง 15 ภาพ รวมทั้งสามารถใช้ Video ที่เราได้อัพโหลดขึ้น YouTube Channel ของเรามาเป็นสื่อโฆษณาได้ด้วย โดยระบบ AI ของ Google Ads จะค่อย ๆ ทำการเรียนรู้และเลือกใช้ Headline คำอธิบาย และภาพที่ใช้ทำโฆษณาแล้วได้รับการตอบรับที่ดีที่สุดในการเล่นโฆษณา
Responsive Display Ad. ของ Google Ads ช่วยให้การทำโฆษณา Display Ad. ง่ายขึ้นได้อย่างไร?
จาก Responsive Ad. แบบเดิม ที่สามารถทำให้ผู้ลง โฆษณา Display Ad. ไม่ต้องสร้างโฆษณาหลายชิ้น หลายขนาดในครั้งเดียวได้แล้ว การใช้ Responsive Display Ad. ยังช่วยเพิ่มความสะดวกและประโยชน์ต่าง ๆ ให้ผู้ลง โฆษณา Google Display Network ได้อีก ดังนี้
1. ช่วยประหยัดเวลาในการทดสอบข้อความและภาพที่ใช้ในการโฆษณา เนื่องจากเราสามารถสร้าง Headline และคำอธิบายได้พร้อมกันถึง 5 แบบ พร้อมทั้ง upload ภาพที่ใช้ได้ถึง 15 ภาพ ในโฆษณาชิ้นเดียว มันช่วยมให้เราสามารถประหยัดเวลาในการทดสอบโฆษณาเพื่อเลือกใช้ข้อความและภาพที่ได้รับผลตอบรับที่ดีที่สุดได้ โดยระบบ AI จะช่วยวัดและประมวลผลข้อความและภาพที่ดีที่สุดให้เอง
2. ผู้ลงโฆษณาสามารถตรวจสอบผล ของแต่ละ Headline คำอธิบาย และภาพที่ใช้ทำโฆษณาได้อย่างชัดเจนจากรายงานใน Google Ads ซึ่งจะช่วยให้ทราบได้ว่า Headline, Description หรือภาพใดได้ผลตอบรับที่ดีที่สุด
3. สะดวกมากสำหรับผู้ลงโฆษณา Display Ad. ที่ไม่มีทีมงานในการสร้างชิ้นงานกราฟฟิกในการทำโฆษณา Display Ad. เพราะมีเพียงแค่ภาพสินค้าและภาพโลโก้ก็สามารถสร้างชิ้นงานโฆษณาได้แล้ว ไม่ต้องใช้กราฟฟิกดีไซน์ในการตัดต่อตกแต่งรูปภาพอะไรมากมาย ประหยัดเงินค่าจ้างทำชิ้นงานโฆษณาได้ด้วย
4. สามารถใช้วีดีโอมาใช้เป็นชิ้นงานโฆษณาร่วมกับโฆษณาแบบรูปภาพธรรมดาได้ เพื่อสร้างสร้างความน่าสนใจ การดึงดูดความสนใจในสินค้าและบริการที่ใช้ทำโฆษณาได้ดียิ่งขึ้น